โรคแขนขาอ่อนแรงเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ จึงส่งผลให้การทำงานของเซลล์ประสาทระหว่างช่องว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบกพร่อง ผู้ป่วยบางรายจึงมีอาการแขนขาอ่อนแรงได้ โดยอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงอ่อนแรงจะเริ่มเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังพบว่ามีกล้ามเนื้อลีบในผู้ป่วยบางรายอีกด้วย อีกทั้งโรคแขนขาอ่อนแรงยังเป็นการสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยไม่สามารถเคลื่อนไหวและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อจะเกิดขึ้นเมื่อส่วนของ สมอง ไขสันหลัง เส้นประสาทที่เชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้รับบาดเจ็บ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับโรคนี้มากให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้สังเกตอาการและรักษาได้ทันท่วงที
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการเริ่มแรก
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการเริ่มแรกจะมีอาการกล้ามเนื้อเกร็ง อ่อนแรงและลีบเล็กลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบริเวณมือ แขน ขา หรือเท้า อาการตามมาคือจะมีอาการพูดและกลืนลำบาก ร่วมกับการหายใจติดขัด โดยจะทำให้เกิดอาการหอบหรือเหนื่อยจากการใช้กล้ามเนื้อที่มากเกินไป หายใจอ่อนแรง แขนขาไม่มีแรง เหนื่อยง่าย และหากพบเจอในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต จากการวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงเกิดจากพันธุกรรมและพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัย 40 – 60 ปี
แขนขาอ่อนแรงเกิดจากสาเหตุอะไร
โรคแขนขาอ่อนแรงเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง ที่เป็นภาวะหลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน ทำให้เลือดไม่สามารถส่งไปเลี้ยงในสมองได้ ซึ่งสัญญาณเตือนมักจะพบว่ามีอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง สังเกตได้จากการที่ยกขาไม่ขึ้น สูญเสียความสามารถในการเดิน กำมือไม่ได้ หรือไม่สามารถยกแขนหรือขาได้ โดยอาการเหล่านี้อาจจะมีภาวะหลอดเลือดสมองและควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ซึ่งโรคแขนขาอ่อนแรงเกิดจากเซลล์ประสาทเสื่อมสภาพ ถูกทำลาย จึงทำให้กล้ามเนื้อมีความอ่อนแรง โรคแขนขาอ่อนแรงมีอาการหลัก ๆ ดังนี้
1. แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก
คือภาวะที่ร่างกายของผู้ป่วยมีการสูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อในส่วนแขนและขาข้างใดข้างหนึ่งซึ่งเป็นด้านเดียวกันของลำตัวทั้งหมด โดยมักจะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดมักจะมาจากอาการของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
2. ปวดเมื่อยแขนขาไม่มีแรง
รู้สึกว่ามีอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อมีอาการอ่อนแรงลง แขน ขาเกิดอาการกระตุก รวมทั้งบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายมีอาการแข็งเกร็ง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการหนักจนไม่มีแรงและไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้
3. แขนขาไม่มีแรง เหนื่อยง่าย
อาการเหนื่อยง่ายเวลาออกกำลังกาย หายใจลำบาก แขน ขา ยกไม่ขึ้น การทรงตัวผิดปกติ หรือการสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขา หากเป็นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย และเป็นแบบเฉียบพลันนั้น อาจบ่งชี้ได้ถึงภาวะเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกได้
แขนชาขาชาเกิดจากอะไร
อาการแขนชาขาชาเป็นอีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ อาจเกิดจากกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท หากปล่อยไปนาน ๆ อาจเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ หากพบว่ามีอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้า 2-3 วันขึ้นไป ให้ออกกำลังกาย ลุกนั่งสลับกับการเดินบ้างระหว่างวัน กรณีอาการชาไม่รุนแรง ให้สะบัดข้อมือข้อเท้าหรืออาจรับประทานวิตามินบีเสริม แต่หากในกรณีที่อาการชารุนแรงขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ อาจต้องรักษาด้วยการทานยาต้านการอักเสบของ รวมไปถึงการเปลี่ยนที่นอน หมอน เพื่อดูอาการและถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
วิธีรักษาแขนขาอ่อนแรง
หากผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นก็คือการผ่าตัดเพื่อที่จะให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น ส่วนวิธีรักษาแขนขาอ่อนแรงเบื้องต้นอาจจะต้องทำการกายภาพบำบัดเพื่อดูอาการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาในลำดับแรก และหากอาการยังไม่ดีขึ้นแพทย์อาจจะให้ยาละลายลิ่มเลือด tissue plasminogen activator เพื่อเปิดหลอดเลือด และให้เลือดสามารถไปเลี้ยงสมองได้อย่างเร็วที่สุด ส่งผลให้เซลล์สมองที่ยังไม่ตายสามารถฟื้นกลับมาทำงานอย่างปกติ
หากใครที่ไม่มีความรู้ทางด้านการกายภาพบำบัดหรือวิธีการป้องกันโรคแขนขาอ่อนแรงสามารถสอบถามและขอข้อมูลกับนักกายภาพจาก BECOS เพื่อเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยที่บ้านหากสนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 099 631 8668 หรือ Facebook เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
แขนขาอ่อนแรงกินอะไรดี
1. วิตามินบี เพราะมีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงมีการระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมและสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ดี อาจจะเป็นอาหารจำพวก เวย์โปรตีน เพราะดูดซึมได้ง่ายและมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้ง 8 ชนิด ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ
3. บำรุงได้ด้วย ผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม หรือสีแดง ซึ่งสารอาหารที่อยู่ในผัก ผลไม้เหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารแอนตี้ออกซิเดนปริมาณมาก โดยสารอาหารดังกล่าวนี้มีความจำเป็นอย่างมากในการช่วยป้องกันโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
แขนขาอ่อนแรงรักษาหายไหม
สำหรับวิธีการรักษาโรคแขนขาอ่อนแรงจะเป็นการรักษาตามอาการ โดยจะเน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กายภาพบำบัด หรือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีรักษาตามอาการของผู้ป่วยที่เจอ และในปัจจุบันโรคแขนขาอ่อนแรงไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยแขนขาไม่มีแรงได้ หลัก ๆ แล้วควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักมากจนเกินไป ทำจิตใจให้สบายและไม่ให้เกิดความเครียด ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงเท่านี้ร่างกายก็สามารถห่างจากโรคร้ายได้ง่าย ๆ