สาเหตุของอาการปวดท้ายทอยที่หลายคนมองข้าม อาการเป็นอย่างไร เช็กด่วน!

อาการปวดที่ท้ายทอย เป็นอาการที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย เกิดได้จากหลายสาเหตุ และความรุนแรงไม่เท่ากัน บางคนปวดเพียงชั่วคราว ไม่นานก็หาย แต่บางคนปวดลามไปที่ศีรษะ ปวดร้าวไปถึงช่วงคอ บ่า ไหล่ สะบัก หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แขนชา หันคอลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากมีอาการผิดปกติ หรือมีอาการเรื้อรังเป็นเวลานาน อย่ามองข้ามหรือละเลยสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา แต่หากใครสงสัยว่าอาการปวดท้ายทอยที่เป็นอยู่ เกิดจากสาเหตุอะไร และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรได้บ้าง ไปหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย

อาการปวดที่ท้ายทอยเกิดจากอะไร

สาเหตุของอาการปวดท้ายทอยเกิดจากอะไร สามารถแบ่งตามส่วนที่มีความผิดปกติได้ ดังนี้

• กล้ามเนื้อคออักเสบ เป็นสาเหตุที่พบมากในปัจจุบัน เป็นอาการปวดที่มาจากการก้มเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน อาการของออฟฟิศซินโดรม หรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มเป็นเวลานาน เช่น นั่งเล่นเกม ดูทีวี หรือขับรถ ในท่าที่ไม่เหมาะสม ทำให้ช่วงศีรษะและลำคอมีอาการเกร็งต่อเนื่อง จนเกิดอาการปวด เมื่อยล้า และส่งผลให้กล้ามเนื้อคออักเสบ นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากความเครียดที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอเกิดการเกร็งตัวโดยไม่รู้ตัว
• เส้นประสาทบริเวณคออักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากการนอน เช่น นอนตกหมอน นอนผิดท่า หรืออาจเกิดในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเส้นประสาทเสื่อม ทำให้เส้นประสาทบริเวณคออักเสบ
• หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทคอถูกกดทับ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณท้ายทอยร้าวไปถึงแขนและนิ้วมือ รู้สึกชา อ่อนแรง ยกแขนไม่ขึ้น 
• กระดูกต้นคอเสื่อม เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้มีหินปูนมาเกาะกระดูกและไปกดทับเส้นประสาท ยิ่งใช้งานหนักก็ยิ่งเสื่อมเร็ว ส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป จะมีอาการปวดเมื่อขยับคอ ปวดร้าวตามแนวเส้นประสาทไปถึงไหล่ บ่า สะบัก แขน 

อาการปวดท้ายท้อยแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์

หากมีอาการปวดท้ายทอยเรื้อรังเป็นระยะเวลานานมากกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน มีอาการปวดหลังได้รับอุบัติเหตุ ถูกกระแทกอย่างรุนแรง หรือมีอาการปวดดังนี้ ควรรีบไปพบแพทย์

1. ปวดหัว ปวดเบ้าตา ปวดท้ายทอย

หากมีอาการปวดเบ้าตาร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นอาการของโรคไมเกรน หรือปวดหัวแบบคลัสเตอร์ และมักจะมีอาการอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน น้ำตาไหล คัดจมูก หูอื้อ แต่หากมีอาการปวดจี๊ด ๆ เหมือนมีเข็มทิ่ม อาจเป็นอาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือกล้ามเนื้อหลังคออักเสบ

2. ปวดขมับสองข้าง ปวดท้ายทอย

หากมีอาการปวดขมับเหมือนมีอะไรมาบีบหรือรัด ปวดท้ายทอยร้าวไปที่ขมับทั้งสองข้าง อาจเกิดจากการปวดศีรษะชนิดกล้ามเนื้อตึงตัว (Tension) ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด สภาวะทางอารมณ์ การทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน ส่วนใหญ่มักจะเป็นนาน อาจเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ จึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญหรือทรมานจากอาการเหล่านี้

3. ปวดท้ายทอย กดแล้วเจ็บ

หากมีอาการปวด และกดบริเวณท้ายทอยแล้วรู้สึกเจ็บ อาจเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณคอ หากไม่ทำการรักษา จะทำให้อาการปวดเรื้อรัง และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

4. ปวดท้ายทอย คอ บ่า ไหล่

อาการปวดท้ายทอย ลามไปที่คอ บ่า ไหล่ มักเกิดจากความเครียด หรืออาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งควรปรับพฤติกรรม หรือไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา หากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจรุนแรง เรื้อรัง และเสี่ยงต่อโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และกระดูกสันหลังคด 

วิธีรักษาอาการปวดท้ายทอย

วิธีแก้ปวดต้นคอ ท้ายทอย เบื้องต้น สามารถรักษาด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้

• ปรับพฤติกรรม เช่น ปรับท่านั่ง ท่านอน ให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม และเปลี่ยนท่าบ่อยๆ 
• ปรับของใช้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น ความสูงของโต๊ะ เก้าอี้ หมอน ทีวี เบาะนั่งในรถ
• ประคบอุ่น โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น หรือใช้เจลประคบร้อนห่อด้วยผ้า แล้วนำมาประคบบริเวณท้ายทอยประมาณ 20-30 นาที
• รับประทานยาแก้ปวด
• หลีกเลี่ยงความเครียด 
• หลีกเลี่ยงการหักคอแก้เมื่อย หรือสะบัดคอแรงๆ
• หมั่นบริหารคอด้วยท่าง่ายๆ เป็นประจำ เพื่อยืดเหยียดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 
• คอยสังเกตอาการ หากไม่ดีขึ้นหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

หากใครที่มีอาการปวดท้ายทอยบ่อย ๆ ควรรีบสังเกตตัวเองและรีบเข้าไปพบแพทย์โดยด่วน หรือสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ BECOS เพราะที่นี่นักกายภาพมืออาชีพที่สามารถคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลืออาการปวดท้ายทอยได้เป็นอย่างดี สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 099 631 8668 หรือ BECOS : บริการจัดส่งนักกายภาพบำบัด ไปที่บ้านและองค์กร

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับอาการปวดท้ายทอย